bangkokperfum

The natural scents and emotion

BANGKOK PERFUME

เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตน้ำหอมและเครื่องหอมที่มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อมอบประสบการณ์อันเหนือระดับให้กับลูกค้า

ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559 บริษัทของเรามีความเชี่ยวชาญในการให้บริการผลิตสินค้าแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) สำหรับลูกค้าในประเทศ ซึ่งรวมถึงธุรกิจโรงแรมและโรงพยาบาลชั้นนำ

นอกจากการผลิตภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง เรายังร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์ของลูกค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ของเราครอบคลุมกลุ่มน้ำหอม เครื่องหอม และของชำร่วยสำหรับโอกาสสำคัญ เช่น งานแต่งงาน หรืองานพิธีต่างๆ

ด้วยกำลังการผลิตที่มากกว่า 100,000 ชิ้นต่อเดือน เราพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งไม่หยุดยั้งในการทดลองผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

เพราะเราเชื่อมั่นว่า “คุณภาพคือหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ”

แบงค์ค็อก เพอร์ฟูม แอนด์ คอสเมติก พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์หอมอันโดดเด่นและยั่งยืนให้กับทุกคน

“ให้กลิ่นหอม สร้างความประทับใจไปกับเรา”

ร้อยเรื่องประวัติศาสตร์น้ำหอมก่อนคริสกาล-ทศวรรษปัจุบัน

 น้ำหอมมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณโดยศาสตร์การทำน้ำหอมถือกำเนิดขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและการบูชาเทพเจ้า รวมถึงการสร้างกลิ่นหอมเพื่อความผ่อนคลายและเพิ่มเสน่ห์ให้กับมนุษย์

      ยุคแรกของการทำน้ำหอม

 1. สมัยเมโสโปเตเมีย

ประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวเมโสโปเตเมียเป็นกลุ่มแรกที่มีการบันทึกถึงการใช้สารหอมจากธรรมชาติ เช่น ยางไม้ สมุนไพร และดอกไม้ ในพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า

 2. อียิปต์โบราณ

น้ำหอมมีบทบาทสำคัญในอียิปต์ โดยเฉพาะในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น การบูชาเทพเจ้า การทำมัมมี่ และการตกแต่งร่างกาย น้ำหอมที่นิยมคือสารหอมจากเรซิน (เช่น มดยอบ) และน้ำมันหอมที่ใช้ชโลมร่างกาย

 3. อินเดียและจีนโบราณ

ในอินเดีย น้ำหอมถูกพัฒนาเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะธูปหอมและน้ำมันหอม ส่วนในจีนมีการใช้ดอกไม้และสมุนไพรในการสร้างกลิ่นหอมเพื่อเสริมสุขภาพและจิตวิญญาณ

 4. กรีกและโรมัน

ศาสตร์การทำน้ำหอมในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากอียิปต์ น้ำหอมถูกใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อความสวยงามและสุขอนามัย มีการพัฒนาสูตรน้ำหอมที่ซับซ้อนขึ้น และมีการบรรจุในขวดแก้วเพื่อความสะดวก

    จุดเปลี่ยนในยุคกลาง

ศาสตร์การทำน้ำหอมในยุคกลางได้รับการพัฒนาอย่างมากในโลกอาหรับโดยเฉพาะการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากพืชผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “Distillation” ซึ่งคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเปอร์เซียชื่อ อัล-คินดี (Al-Kindi)

น้ำหอมเริ่มแพร่หลายในยุโรปเมื่อพ่อค้าชาวอาหรับนำเข้าสู่ยุโรป

    การพัฒนาในยุคเรอเนซองส์

ช่วงยุคเรอเนซองส์ (ศตวรรษที่ 14–16) น้ำหอมเริ่มเป็นที่นิยมในชนชั้นสูงยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศสที่กลายเป็นศูนย์กลางการทำน้ำหอม

มีการผลิตน้ำหอมในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น น้ำหอมชนิดน้ำ (Eau de Parfum) และชนิดแห้ง (Powdered Perfume)

ศตวรรษที่ 17–19

ฝรั่งเศสพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำหอมอย่างจริงจัง เมืองกราซ (Grasse) กลายเป็นศูนย์กลางการปลูกดอกไม้และสมุนไพรเพื่อผลิตน้ำหอม

 ในศตวรรษที่ 19 มีการคิดค้นสารสังเคราะห์กลิ่นหอม ทำให้น้ำหอมมีหลากหลายกลิ่นมากขึ้น

ศาสตร์การทำน้ำหอมยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ในปัจจุบันโดยผสมผสานทั้งวัตถุดิบธรรมชาติและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน